จากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวในฤดูร้อนนี้ โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ที่จะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าอากาศจะร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิสูงสุด 44 องศาเซลเซียส ทำให้ยอดขายแอร์พุ่ง คาดว่าทั้งปีมูลค่าจะแตะ 35,000 ล้านบาท ด้านผู้ประกอบการบอกว่ากำลังรอความชัดเจนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวังว่าจะช่วยกระตุ้นตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าให้โตเพิ่มขึ้นอีก

นายรัชตะ สุทธาพัฒน์ธานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริหารสินค้า เพาเวอร์ มอลล์ เปิดเผยว่า ฤดูร้อนปีนี้อากาศร้อนจัดทำให้ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภททำความเย็นมียอดขายเพิ่มขึ้น สินค้าขายดีที่สุดเป็นเครื่องปรับอากาศ รองลงมาเป็นพัดลม พัดลมไอเย็น และตู้เย็น

ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน เครื่องปรับอากาศยอดขายเพิ่มขึ้น 60-70% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากนโยบาย easy e-receipt ในช่วงต้นปี และอากาศที่ร้อนขึ้นในฤดูร้อน ทำให้ประชาชนมาเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศที่มี BTU สูงไปใช้งานมากขึ้น โดยรุ่นที่ขายดีเป็นขนาด 12,000-18,000 BTU จากปีก่อนที่นิยมซื้อขนาด 9,000 BTU

มูลค่าตลาดเครื่องปรับอากาศปีนี้คาดว่าจะโตกว่า 35,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15-20% จากปี 2566 ที่มีมูลค่าประมาณ 28,000-30,000 ล้านบาท ทำให้บริษัทสั่งสต๊อกสินค้าเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว 30-40% ขณะที่ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่า 220,000 – 230,000 ล้านบาท …..นายรัชตะกล่าว

ขณะที่พฤติกรรมการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าของคนในปัจจุบันก็เปลี่ยนไป ไม่ได้ตัดสินใจซื้อจากโปรโมชั่นหรือราคาเพียงอย่างเดียว แต่จะดูการประหยัดพลังงานมาประกอบการตัดสินใจด้วยโดยเฉพาะฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 รูปแบบใหม่ที่จะมีการระบุค่าการประหยัดพลังงานชัดเจนขึ้นแม้สินค้ามีราคาสูง แต่หากช่วยประหยัดไฟฟ้าในระยะยาวได้มากกว่าลูกค้าก็ยอมจ่ายคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

เอกชนรอความชัดเจนแจกเงินดิจิทัลหวังดันยอดขายเพิ่มคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

นายรัชตะ ระบุด้วยว่า แม้สินค้าประเภทเครื่องทำความเย็นจะขายดีในช่วงฤดูร้อน แต่ปัจจัยด้านเศรษฐกิจที่คนมีกำลังซื้อน้อยลง ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าบางประเภทยอดขายลดลง ขณะเดียวกันผู้ประกอบการยังรอความชัดเจนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายชุดใหญ่ในวันที่ 10 เมษายนนี้ เพราะเป็นโครงการที่มีเม็ดเงินขนาดใหญ่ที่น่าจะเป็นผลดีกับตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า

By admin